โรงพิมพ์จากอดีตสู่ปัจจุบัน พร้อมบริการครบวงจร
โรงพิมพ์ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาวงการสิ่งพิมพ์มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในยุคแรกเริ่มการพิมพ์เป็นเพียงกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้แรงงานคนจำนวนมาก แต่เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น โรงพิมพ์ได้มีการปรับตัวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ควบคู่ไปกับการมุ่งเน้นคุณภาพของงานพิมพ์และการบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร
ประวัติความเป็นมา
การพิมพ์เริ่มต้นขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 เมื่อโยฮันน์ กุตเทนแบร์ก นักประดิษฐ์ชาวเยอรมันคิดค้นระบบพิมพ์ด้วยตัวอักษรหล่อจากโลหะ จากนั้นวิธีการพิมพ์ก็ค่อยๆ แพร่หลายไปทั่วทวีปยุโรป ในสมัยนั้นโรงพิมพ์ต้องพึ่งพาแรงงานคนในการประกอบและจัดวางตัวอักษรโดยใช้เวลานาน ต่อมาเมื่อมีการประดิษฐ์เครื่องพิมพ์กลไกในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 การผลิตสิ่งพิมพ์จึงทำได้รวดเร็วขึ้น
ในประเทศไทยการพิมพ์ด้วยระบบตะวันตกเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยมีการนำเครื่องพิมพ์แบบใช้แรงงานคนจากประเทศจีนมาใช้ งานพิมพ์ในยุคแรกส่วนใหญ่จึงเป็นหนังสือเรียน คำสอน และส่วนราชการ จนกระทั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการสั่งซื้อเครื่องพิมพ์กลไกขนาดเล็กจากประเทศอังกฤษมาใช้ สำหรับพิมพ์หนังสือประกอบพระราชพิธีมงคลต่างๆ นับเป็นจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมโรงพิมพ์ที่ทันสมัยของไทย
โรงพิมพ์จากอดีตสู่ปัจจุบัน
โรงพิมพ์ในปัจจุบันได้มีการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำอุปกรณ์และเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ ประกอบกับบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญ ทำให้สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยคงไว้ซึ่งมาตรฐานคุณภาพงานในระดับสูง
เทคโนโลยีการพิมพ์ยุคใหม่ เช่น ดิจิทัลพริ้นติ้ง หรือการพิมพ์แบบดิจิทัล เป็นระบบที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในโรงพิมพ์สมัยใหม่ เนื่องจากสามารถลดขั้นตอนการผลิตและประหยัดต้นทุน แต่ยังคงได้คุณภาพงานพิมพ์ที่สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้โรงพิมพ์ปัจจุบันยังมีบริการครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบและรับวางรูปเล่มโดยนักออกแบบมืออาชีพ รวมถึงการตกแต่งผิวหนัง การเคลือบนวล การเข้าเล่มสันปกนูน เพื่อสร้างผลงานพิมพ์ที่สวยงามและมีคุณภาพตรงตามความประสงค์
บริการครบวงจรของโรงพิมพ์มาตรฐาน
1. การออกแบบและรับวางรูปเล่ม
ทีมนักออกแบบมืออาชีพสร้างสรรค์ผลงานพิมพ์ตามแนวคิดของลูกค้า ผ่านกระบวนการออกแบบ จนถึงการวางองค์ประกอบให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้งาน
2. งานพิมพ์ดิจิทัล
ระบบพิมพ์สมัยใหม่ที่สามารถผลิตงานด้วยความแม่นยำและรวดเร็ว ให้ได้ผลงานพิมพ์คุณภาพสูงในต้นทุนที่ประหยัด
3. งานพิมพ์ระบบออฟเซ็ต
สำหรับสิ่งพิมพ์ขนาดใหญ่จำนวนมาก ผลิตด้วยเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่ให้งานพิมพ์คมชัดสวย