เครื่องกรองน้ำดื่มในบ้านต้องเป็นเครื่องแบบไหนให้เหมาะสม ต้องระบบอะไรดี
น้ำดื่มที่สะอาดและปลอดภัยเป็นปัจจัยสำคัญต่อสุขภาพ การเลือกเครื่องกรองน้ำที่เหมาะสมจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับทุกครอบครัว สำหรับใครที่กำลังมองหา เครื่องกรองน้ำ ในบ้านสักเครื่อง แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเองหรือคนในครอบครัวมากที่สุด
1. เลือกจากระบบเครื่องกรองน้ำดื่มในบ้าน
หลายคนอาจยังเข้าใจผิดว่าเครื่องกรองน้ำเครื่องไหนก็กรองน้ำได้เหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วเครื่องกรองน้ำที่วางจำหน่ายในปัจจุบันมีทั้งหมด 4 แบบ ดังนี้
– ระบบ MF (Micro Filtration System) เป็นระบบกรองด้วยเยื่อเมมเบรนที่มีรูขนาดเล็กประมาณ 0.1 ไมครอน ในการแยกอนุภาคขนาด 0.1-10 ไมครอน ออกจากสารแขวนลอยเพื่อทำให้น้ำบริสุทธิ์ และอีกหนึ่งข้อดีของระบบกรองชนิดนี้คืออายุการใช้งานที่ยาวนานมาพร้อมประสิทธิภาพการกรองที่สูง
– ระบบ UF (Ultra Filtration System) เป็นระบบกรองด้วยเยื่อเมมเบรนที่ผลิตจากวัสดุเบาบางหลายชั้นสำหรับแยกน้ำและอนุภาคอื่นที่อยู่ในน้ำให้ออกจากกัน สำหรับหลักการทำงานจะคล้ายคลึงกับระบบ RO เพียงแต่ระบบ RO สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้มากกว่าระบบ UF
– ระบบ UV (Ultra Violet Filtration System) เป็นระบบกรองด้วยหลอด UV ที่มีความยาวคลื่นอัลตราไวโอเลตสูงถึง 254 นาโนเมตรส่องไปยังน้ำดิบที่เข้ามาในเครื่องเพื่อรบกวน DNA ของเชื้อแบคทีเรียและไวรัสจนทำให้พวกมันไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ในน้ำได้อีกต่อไป โดยระยะเวลาในการกรองจะใช้เวลาเพียง 1 นาที ต่อน้ำ 2-4 ลิตร (เร็วกว่าระบบกรองน้ำแบบอื่น), กำจัดกลิ่นและสีของคลอรีนให้เจือจาง อีกทั้งช่วยปรุงรสของน้ำให้เหมาะต่อการดื่ม นอกจากนี้ยังช่วยคงสภาพของแร่ธาตุให้อยู่ในน้ำที่ผ่านการกรองแล้ว คุณจึงได้รับแร่ธาตุจากแหล่งน้ำดิบได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งมีค่าบำรุงรักษาต่ำเพียงแค่เปลี่ยนหลอด UV ปีละ 1 ครั้ง
– ระบบ RO (Reverse Osmosis System) เป็นระบบกรองแบบรีเวอร์สออสโมซิส (Reverse Osmosis) โดยใส่ความดันให้สารละลายที่มีความเข้มข้นสูง จนความดันน้ำสูงกว่าความดันออสโมติก (Osmotic Pressure) โดยบีบให้น้ำหรือโมเลกุลของเหลวไหลผ่านเข้าไปยังเยื่อเมมเบรน (Membrane) จากบริเวณที่มีสารละลายเข้มข้นสูงไปยังบริเวณที่มีสารละลายเข้มข้นต่ำ สำหรับเยื่อเมมเบรนนั้นผลิตจากใยสังเคราะห์เซลลูโลสละเอียดถึง 0.0001 ไมครอน ในการกรองน้ำจากแหล่งน้ำดิบ โดยความละเอียดในการกรองที่มากกว่าระบบกรองอื่น ๆ จึงสามารถกรองน้ำจากทุกแหล่งน้ำดิบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำทะเล น้ำกร่อย น้ำบาดาล ฯลฯ นอกจากจะกรองสารปนเปื้อนจากแหล่งน้ำดิบอย่างเช่น สารเคมีเป็นพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ไหลลงสู่แหล่งน้ำดิบแล้ว ยังกรองเชื้อไวรัสและแบคทีเรียต่าง ๆ ที่เจริญเติบโตจากแหล่งน้ำที่สกปรก ไม่ได้คุณภาพ
2. เลือกเครื่องกรองน้ำให้เหมาะกับที่อยู่อาศัย
หากอยู่กันเพียง 1-2 คน แนะนำให้เลือกซื้อเครื่องกรองน้ำขนาดเล็กหรือปานกลางก็พอ เพราะการซื้อเครื่องขนาดใหญ่มาใช้ อาจสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น เพราะระบบการทำงานของเครื่องกรองน้ำขนาดใหญ่จะต้องใช้พลังงานไฟฟ้ามากกว่าเครื่องกรองขนาดเล็ก แต่หากอยู่เกิน 3 คนขึ้นไป การซื้อเครื่องกรองน้ำขนาดใหญ่ถือว่าตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของความไวในการกรองและสามารถใช้งานได้หลายฟังก์ชั่นตามความต้องการของแต่ละคน
3. เลือกจากดีไซน์เครื่องกรองน้ำ
ในปัจจุบันมีแบรนด์เครื่องกรองน้ำหลายแบรนด์เริ่มให้ความสำคัญกับการออกแบบดีไซน์ของเครื่องกรองมากขึ้น ทำให้ฟังก์ชั่นของ เครื่องกรองน้ำ เป็นมากกว่าเครื่องกรองน้ำเพียงอย่างเดียว และกลายเป็นไอเทมตกแต่งบ้านที่ใครหลายคนต้องมี นอกจากดีไซน์ที่สวยสะดุดตา ถูกใจคุณแล้ว อย่าลืมเลือกเครื่องที่มีหัวกดดิ่งลงตามแรงโน้มถ่วงโลกด้วย เพราะหัวกดแบบนี้จะช่วยประหยัดพลังงานในการกดน้ำดื่มมากขึ้น
4. เลือกจากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ มีบริการก่อน-หลังการขายที่ดีเยี่ยม
หาก กำลังจะซื้อสินค้าสักชิ้น ตามธรรมชาติแล้วใคร ๆ ก็อยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ตัวเอง เพราะเครื่องกรองน้ำจากแบรนด์คุณภาพจะใช้วัสดุคุณภาพดี ทนทานต่อการใช้งานสูง จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ด้วยความที่ของมีคุณภาพสูงจึงทำให้แบรนด์เหล่านั้นเป็นที่น่าเชื่อถือมากขึ้น ยิ่งแบรนด์ไหนมีประสบการณ์ขายสูง มีรีวิวจากผู้ใช้งานจริงเกี่ยวกับบริการทั้งก่อน-หลังการขายที่ยอดเยี่ยมแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มความอุ่นใจในการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำมากยิ่งขึ้นด้วย และที่สำคัญแบรนด์ดัง ๆ หลายแบรนด์มักจะมีโปรโมชั่นเพื่อคืนกำไรให้แก่ลูกค้า หาก เลือกซื้อในช่วงเวลาจัดโปรโมชั่นด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งจะช่วยให้ ได้ของดีในราคาที่ถูกลงอีกด้วย บอกได้เลยว่าซื้อของแบรนด์แล้วคุ้มแน่นอน
การเลือก เครื่องกรองน้ำ ที่เหมาะสมต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งคุณภาพน้ำในพื้นที่ ความต้องการใช้งาน และงบประมาณ การเลือกระบบที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้น้ำดื่มที่สะอาด ปลอดภัย และคุ้มค่ากับการลงทุน อย่าลืมว่าการบำรุงรักษาที่ดีจะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพของเครื่องกรองน้ำได้อย่างยาวนาน