รถเครน

รถเครน ประเภท คุณสมบัติ และการใช้งานในงานก่อสร้าง

รถเครน เป็นเครื่องจักรที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรม การเลือกใช้รถเครนที่เหมาะสมกับงาน การบำรุงรักษาที่ดี และการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยจะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด ในอนาคต เทคโนโลยีใหม่ๆ จะยิ่งทำให้รถเครนมีความทันสมัยและตอบโจทย์การใช้งานมากยิ่งขึ้น รถเครน เป็นเครื่องจักรกลที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมก่อสร้างและงานยกของหนัก โดยมีหลากหลายประเภทที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน มาทำความรู้จักกับประเภทของรถเครนที่นิยมใช้งานกัน

1. รถเครนล้อยาง (Mobile Crane)
รถเครนล้อยางเป็นประเภทที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดในงานก่อสร้าง ด้วยความคล่องตัวสูงและการใช้งานที่หลากหลาย
คุณสมบัติเด่น
– เคลื่อนย้ายได้สะดวกบนถนน
– ติดตั้งและเตรียมพร้อมใช้งานรวดเร็ว
– รับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 10-500 ตัน
– บูมสามารถยืดหดได้ตามความต้องการ

การใช้งานที่เหมาะสม
– งานก่อสร้างทั่วไป
– ยกวัสดุก่อสร้างขึ้นอาคาร
– ติดตั้งเครื่องจักรในโรงงาน
– งานซ่อมบำรุงที่ต้องการความคล่องตัว

2. รถเครนตีนตะขาบ (Crawler Crane)
รถเครนตีนตะขาบเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับงานหนักที่ต้องการความมั่นคงสูง

คุณสมบัติเด่น
– รับน้ำหนักได้มากกว่ารถเครนล้อยาง
– มีความมั่นคงสูงแม้ในพื้นที่ไม่เรียบ
– สามารถทำงานได้ต่อเนื่องในระยะยาว
– เหมาะกับงานที่ต้องเคลื่อนที่ในพื้นที่จำกัด

การใช้งานที่เหมาะสม
– งานก่อสร้างอาคารสูง
– งานก่อสร้างสะพาน
– งานติดตั้งโครงสร้างขนาดใหญ่
– งานในพื้นที่ที่มีความลาดชัน

3. รถเครนขาคู่ (Rough Terrain Crane)
รถเครนขาคู่ออกแบบมาเพื่องานในพื้นที่ทุรกันดารหรือพื้นที่ก่อสร้างที่มีความท้าทาย
คุณสมบัติเด่น
– ล้อขนาดใหญ่สำหรับการขับเคลื่อนในพื้นที่ขรุขระ
– ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
– ขาค้ำยันที่แข็งแรง
– การควบคุมที่แม่นยำ

การใช้งานที่เหมาะสม
– งานก่อสร้างนอกเมือง
– งานในเหมืองแร่
– งานในพื้นที่ทุรกันดาร
– งานที่ต้องการความคล่องตัวสูง

4. รถเครนทาวเวอร์ (Tower Crane)
รถเครนทาวเวอร์เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการก่อสร้างอาคารสูง
คุณสมบัติเด่น
– ความสูงที่ปรับเพิ่มได้ตามการก่อสร้าง
– รัศมีการทำงานกว้าง
– ประสิทธิภาพในการยกของสูง
– ควบคุมได้แม่นยำ

การใช้งานที่เหมาะสม:
– การก่อสร้างตึกสูง
– งานก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่
– โครงการที่ต้องการยกของในแนวดิ่งสูง
– งานที่ต้องการความแม่นยำในการวางวัสดุ

5. รถเครนเทเลสโคปิค (Telescopic Crane)
รถเครนเทเลสโคปิคโดดเด่นด้วยความสามารถในการยืดหดแขนเครน
คุณสมบัติเด่น
– แขนเครนยืดหดได้อย่างรวดเร็ว
– ควบคุมง่าย
– ประหยัดพื้นที่การทำงาน
– เหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง

การใช้งานที่เหมาะสม
– งานติดตั้งอุปกรณ์
– งานซ่อมบำรุง
– งานในพื้นที่จำกัด
– งานที่ต้องการความรวดเร็ว

การเลือกใช้รถเครนให้เหมาะสมกับงาน
การเลือกใช้รถเครนให้เหมาะสมกับงานต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้
1. น้ำหนักของวัสดุที่ต้องการยก
2. ความสูงและระยะที่ต้องการยก
3. สภาพพื้นที่ทำงาน
4. ระยะเวลาในการใช้งาน
5. งบประมาณ
6. ข้อจำกัดด้านพื้นที่
7. ความเร่งด่วนของงาน

ข้อควรระวังในการใช้งานรถเครน
1. ตรวจสอบสภาพเครื่องจักรก่อนใช้งานทุกครั้ง
2. ปฏิบัติตามคู่มือการใช้งานอย่างเคร่งครัด
3. ใช้ผู้ควบคุมที่ได้รับการอบรมและมีใบอนุญาต
4. ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนปฏิบัติงาน
5. มีการวางแผนการยกอย่างละเอียด
6. ใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยครบถ้วน
7. มีผู้ช่วยในการสื่อสารและให้สัญญาณ

การบำรุงรักษารถเครน
การดูแลรักษารถเครนอย่างถูกต้องจะช่วยยืดอายุการใช้งานและเพิ่มความปลอดภัย
1. ตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องและไฮดรอลิกสม่ำเสมอ
2. ตรวจสอบระบบเบรกและล้อ
3. หล่อลื่นจุดหมุนและข้อต่อต่างๆ
4. ทำความสะอาดหลังใช้งาน
5. ตรวจสอบสายเคเบิลและตะขอ
6. บันทึกการใช้งานและการซ่อมบำรุง
7. จัดทำตารางการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน

รถเครน แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและข้อดีที่แตกต่างกัน การเลือกใช้งานให้เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความปลอดภัย การทำความเข้าใจคุณสมบัติและข้อจำกัดของรถเครนแต่ละประเภทจะช่วยให้การวางแผนงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติงาน

รถเครน กับเคล็ดลับการใช้งานให้ปลอดภัย ช่วยลดอุบัติเหตุได้เยอะ

รถเครน เป็นหนึ่งในเครื่องจักรที่นิยมเป็นอย่างมากในอุตสาหกรรมก่อสร้าง และ อุตสาหกรรมอื่น ๆ เพราะสามารถช่วยทุ่นแรงในกระบวนการขนย้ายสิ่งของได้ และ สามารถขนย้ายสิ่งของที่มนุษย์ไม่สามารถเคลื่อนย้ายด้วยตัวเองได้ และแน่นอนว่าในการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้เครน ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญที่ควรใส่ใจมากเป็นอันดับต้น ๆ อุบัติเหตุย่อมเกิดทุกที่ทุกเวลาเสมอ หากทำอะไรแล้วไม่ระวังอุบัติเหตุก็อาจเกิดขึ้นได้เสมอ เช่นเดียวกับ รถเครน มักจะเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง ด้วยหลากหลายสาเหตุ ปกติเป็นรถที่ใช้งานยากอยู่แล้ว หากทำงานอย่างไม่ระมัดระวัง อุบัติเหตุก็สามารถเกิดได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมอีก และนั้นจะส่งผลอันตรายมากมาย ทั้งคนขับ รถเครนเสียหาย หรือคนรอบข้างเองก็ตาม จะได้รับผลกระทบด้วย สามารถลดการเกิดอุบัติเหตุเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง และเพื่อนร่วมงาน ทำงานงานระมัดระวัง เพื่อลดข้อผิดพลาดให้มากที่สุด เพื่องาน เพื่อตัวเราเอง เพื่อนร่วม และเพื่อชื่อเสียงองค์กรเอง ทุกอย่างก็ดีไปหมด

การเกิดอุบัติเหตุจากรถเครน จะมีอยู่หลากหลายสาเหตุ ที่มีผลในการเกิด ซึ่งหากเกิดข้อผิดพลาดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เรามาดูกันครับว่า มีเคล็ดลับดีๆ อะไรบ้าง สำหรับ 6 เคล็ดลับ วิธีใช้งานรถเครนให้ปลอดภัย ที่จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้

1.รถเครนอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน
การตรวจดูสภาพรถเครน จะเป็นสิ่งที่คนมักจะมองข้ามตลอดเลยด้วยเหตุผลมากมาย หัวหน้าไม่สั่งบ้าง หรือจะตรวจทำไหมใช้งานก่อนหน้านี้เห็นปกติดี ไม่มีอะไรผิดปกติ ด้วยเหตุผลต่างๆ นี้ ซึ่งทำให้ถูกมองข้ามสิ่งนี้ได้ตลอดยิ่งเป็น รถเครน จะเป็นรถที่ต้องใช้งานหนักๆ เกือบทุกงาน ต้องมีส่วนที่เสื่อมสภาพอยู่บ้างเล็กน้อย หากไม่มีการดูแลบ่อยๆ หรือปล่อยอย่างนี้ไปนานๆ แน่นอนว่ารถเครนจะมีสภาพที่แย่ไปกว่าเดิม จะเป็นเหตุที่ทำให้การเกิดอุบัติเหตุขึ้น

2.ตรวจสอบส่วนประกอบเครนอย่างละเอียด
ส่วนประกอบแต่ส่วนของรถเครนจะมีความสำคัญ หากส่วนใดส่วนหนึ่งมีปัญหา หรือสภาพไม่ดี อาจเกิดอันตรายได้เลยครับ การตรวจเช็คส่วนประกอบส่วนต่างๆ ก่อนเริ่มงานนั้น เป็นการบ่งบอกได้ว่า เป็นการทำงานที่มีคุณภาพ รอบคอบ และกลัวปัญหาที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นผลดี ทั้งด้านงาน และด้านองค์กรเอง แต่ละส่วนประกอบรถเครนมีผลอย่างมากในการทำงาน โดยส่วนใหญ่รถเครนจะถูกใช้งาน ยกของหนักๆ ยกในแต่ล่ะครั้ง หลายๆ ตัน หากไม่มีการตรวจเช็ค จะส่งผลอันตรายงานการทำงานได้

3.สภาพพื้นที่ทำงาน
ในทุกพื้นที่ย่อมมีอุปสรรค ที่เราต้องเผชิญเสมอ แม้จะเจอสภาพพื้นที่แบบไหน เราก็ไม่สามารถเลือกได้ เพราะเป็นงานของเราใช่ไหมครับ การทำงานในพื้นที่ต่างๆ ย่อมมีอันตรายเกิดขึ้นได้เสมอ หากมีการจัดการในการทำงานที่ดี จะช่วยลดการเกิดอัตรายได้ไม่น้อยเลย และการทำงานด้วยความใจเย็นจะมีผลได้มากอยู่เช่นกัน
การเลือกใช้ประเภทรถเครน ก็มีส่วนช่วยได้มากอยู่เช่นกัน เช่น หากพื้นที่แถวนั้นมีเนิน หรือที่ลาดชัน ก็อาจเลือกรถเครนตีนตะขาบจะช่วยงานได้ดี เป็นต้น ทุกสภาพพื้นที่ยากลำบากก็สามารถผ่านไปได้ หากมีการว่างงาน มีการจัดการที่ดี สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำงานได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญทำงานไม่ประมาท และมีความรอบคอบช่วยให้ผ่านสภาพพื้นที่ค่อนข้างลำบากได้ ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุ ได้

4.ลดความเสี่ยงของคนขับรถเครน
อย่างที่หลายคนรู้กันที่ว่าการขับรถเครนเป็นสิ่งยากลำบากมาก ซึ่งมีความยากในการขับรถทั่วไปหลายเท่าเลย จะบอกได้ว่าหากคนทั่วไปที่ไม่มีความชาญมากพอ ก็ไม่ควรจะขับอีก ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย หากมีการฝึกฝนมากอย่างดี แล้วเพิ่งเริ่มทำงาน อาจลองทำงานงานง่ายๆ ก่อน
การเตรียมพร้อม ก่อนจะเริ่มทำงานก็เป็นส่วนที่ทำให้งานออกมาได้ดี และทำงานได้สะดวกรวดเร็วขึ้น ทั้งด้านสภาพร่างกาย และส่วนของงานที่จะทำ จะเป็นส่วนช่วยลดการเกิดอันตรายได้

5.รู้ขีดจำกัดของรถเครน
บ่อยครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ โดยยกวัตถุที่มีน้ำหนักมากเกินไป ทำให้รถเครนพลิกคว่ำอยู่บ่อยๆ ตามในข่าวที่ได้ยินมา อาจจะเกิดด้วยสาเหตุอื่นบ้าง สำหรับที่เกิดอุบัติเหตุด้วยสาเหตุนี้ อาจจะมีการเข้าใจผิดบ้างเรื่องขีดกำจัดของรถเครนบ้าง หรือรู้ว่ารถเครนถึงขีดจำกัดแค่ไหน แต่ยังพยายามที่จะยกให้ได้เพื่อให้งานเสร็จเร็วๆ สุดท้ายเกิดอุบัติเหตุรถเครนพลิกค่ำจนได้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ จะมากหรือน้อยก็ตาม ซึ่งมันไม่น่าจะเกิดขึ้น หากทำงานอย่างรัดกุม

6.การปฏิบัติงานที่ก่อเกิดอันตราย
จะเป็นการกระทำที่ก่อเกิดอันตรายขึ้นได้สูง ด้วยข้อผิดพลาดในการทำงาน และทำงามไม่ระมัดระวัง จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยมากขึ้น ซึ่งมาจากการทำงานอย่างประมาท ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น อาจทำให้คนรอบข้างได้รับผลกระทบนี้ไปด้วย จะโทษความผิดของรถเครนไม่ได้ หากทำงานอย่างนี้ จะเกิดขึ้นบ่อยๆ มากดูกันว่าจะมีสาเหตุอะไรบ้าง
– ไม่มีความรู้เกี่ยวกับรถเครน
การทำงานเกี่ยวรถเครน จำเป็นต้องรู้เรื่องรถเครนไว้บ้าง หากทำงานแบบมั่วๆ จะเกิดเหตุอันตรายได้เลย แม้จะเป็นคนทำหน้าที่อะไร จะเป็นต้องเรียนรู้ไว้บ้าง จริงอยู่ว่าเป็นงานที่ไม่ยาก แต่หากทำตามขั้นตอนที่ควรเป็น เช่น ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการบังคับรถเครน ไม่มีความรู้ยกเคลื่อนย้ายวัสดุ การผูกมัดวัตถุ และคำนวณขนาดแผ่นรองขาไม่เป็น เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ จะทำให้เกิดอันตรายได้เลย
– ความคิดผิดๆ
เวลาที่เกิดอุบัติเหตุ ชอบโทษไปเรื่อย ทั้งๆ ที่คนผิดคือคนงานประมาทเกินไป อย่างเช่น สายสลิงขาดจะโทษสายสลิงไม่มีคุณภาพบ้าง เป็นต้น แต่ที่จริงแล้วก่อนก่อนเริ่มงานนั้น ควรเช็คอุปกรณ์ ส่วนไหนเสียบางจะได้แก้ปัญหาได้ หากเกิดเหตุขึ้นมา ผลกระทบอาจส่งผลคนรอบข้างได้ ยิ่งเป็นการทำงานแบบนี้ ยิ่งต้องระวัดระวังเป็นพิเศษ
– ทำงานที่ก่อให้เกิดอันตราย
เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าการทำงานเสี่ยงๆ นั้น ซึ่งก่อเกิดอันตรายได้เลย แต่ก็ยังยอมที่จะเสี่ยงอีก อย่างเช่น ใชรถเครนเกินขีดจำกัด ทำงานเร่งรีบ ไม่ใช้อุปกรณ์ให้ความปลอดภัย เป็นต้น เป็นเหตุที่เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ ได้เลย